หลายปีที่ผ่านมา Facebook กลายเป็นช่องทางที่เจ้าของธุรกิจหลายคนรู้สึกว่า “ยากกว่าเดิม” เพราะโพสต์เข้าถึงน้อย คนเห็นลดลง ยอดไลก์เงียบ แม้จะโพสต์บ่อยแต่ก็ไม่ขยับเท่าที่ควร ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพราะเพจไม่ดี แต่เป็นเพราะอัลกอริทึมของ Facebook ปรับตัวให้เน้นคุณภาพคอนเทนต์มากขึ้น และผลักโพสต์ที่คนสนใจจริงเท่านั้น ทำให้ธุรกิจต้องรู้วิธีใช้งาน Facebook ให้สอดคล้องกับระบบใหม่ การใช้ Facebook ให้คุ้มที่สุดไม่ใช่เรื่องของการโพสต์เยอะ แต่คือการโพสต์แบบมีคุณภาพ รู้จังหวะ และใช้เครื่องมือที่แพลตฟอร์มมีให้ครบถ้วน
เริ่มจากทำคอนเทนต์เชิงคุณค่า ไม่ใช่โพสต์ขายของอย่างเดียว
โพสต์ขายแบบตรง ๆ เข้าถึงน้อยลงทุกปี เพราะ Facebook ต้องการให้ผู้ใช้งานเห็นสิ่งที่ “มีประโยชน์และสร้างการมีส่วนร่วม” การทำคอนเทนต์ที่ตอบคำถามลูกค้า เช่น วิธีแก้ปัญหา เทคนิคการใช้งาน รีวิวจริง หรือความรู้เฉพาะทาง จะทำให้โพสต์ติดอัลกอริทึมได้ง่ายขึ้น และเมื่อคนมีปฏิสัมพันธ์มากขึ้น การเข้าถึงจะพุ่งสูงขึ้นแบบออแกนิกโดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม
ใช้คอนเทนต์แบบวิดีโอและรีลให้มากขึ้น เพราะเป็นรูปแบบที่ Facebook ผลักมากที่สุด
ตอนนี้วิดีโอสั้นคือรูปแบบที่เข้าถึงสูงที่สุดบน Facebook เพราะแพลตฟอร์มกำลังแข่งขันกับ TikTok และ YouTube หากใช้คลิปสั้นที่เล่าเรื่องเร็ว ชัดเจน มีคุณค่า หรือให้ความรู้ได้ภายในไม่กี่วินาที โอกาสที่โพสต์จะถูกดันขึ้นสูงขึ้นมาก การทำคลิปสั้นไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์แพง ๆ ใช้แสงธรรมชาติ เสียงชัด และเนื้อหาตรงประเด็นก็เพียงพอแล้ว
โพสต์ให้สม่ำเสมอ เพื่อให้ Facebook มองว่าเพจของเรามีคุณภาพ
ความสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่อัลกอริทึมให้ความสำคัญอย่างมาก เพจที่โพสต์บ่อยแต่ไม่ได้คุณภาพอาจไม่โต แต่เพจที่โพสต์น้อยเกินไปจะไม่ถูกผลักเลย ควรโพสต์อย่างน้อย 3–4 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยเน้นเนื้อหาที่มีคุณค่า ความสม่ำเสมอทำให้ Facebook ให้คะแนนเพจดีขึ้น และทำให้การเข้าถึงสูงขึ้นในระยะยาว
ตอบคอมเมนต์และอินบ็อกซ์เร็วที่สุด เพราะช่วยเพิ่มคะแนนการมองเห็น

Facebook ให้ความสำคัญกับเพจที่ “มีปฏิสัมพันธ์จริง” การตอบกลับในคอมเมนต์หรืออินบ็อกซ์เร็ว ๆ ไม่เพียงทำให้ลูกค้าประทับใจ แต่ยังเพิ่มคะแนนให้โพสต์ถูกเห็นมากขึ้นอีกด้วย การโต้ตอบภายใน 5–10 นาทีมีผลต่อการดันโพสต์อย่างชัดเจน แบรนด์ที่ตอบลูกค้าเร็วจะเติบโตเร็วกว่าแบรนด์ที่ปล่อยทิ้งไว้นานหลายชั่วโมง
ใช้กลุ่ม (Facebook Group) เป็นเครื่องมือเสริม เข้าถึงได้สูงกว่าเพจหลายเท่า
โพสต์ในกลุ่มยังคงมีอัตราเข้าถึงสูงกว่าเพจมาก เพราะกลุ่มคือพื้นที่ที่คนสนใจเรื่องเดียวกัน ธุรกิจสามารถสร้างกลุ่มของตัวเอง เช่น กลุ่มความรู้ กลุ่มรีวิว หรือกลุ่มคนที่สนใจสินค้าเฉพาะทาง การสร้างคอมมูนิตี้ในกลุ่มจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและทำให้คนเข้ามาหาแบรนด์เองโดยธรรมชาติ
ทำโพสต์คุณภาพให้มากกว่าโพสต์ปริมาณ
โพสต์บ่อยแต่ไม่มีคุณภาพ = เข้าถึงน้อย
โพสต์น้อยแต่คุณภาพสูง = เข้าถึงมาก
ยุคนี้ Facebook ให้คะแนนคอนเทนต์ที่คนอ่านจนจบ คอมเมนต์ แชร์ หรือบันทึก การเขียนบทความสั้น ๆ ความรู้ลึก ๆ หรือโพสต์ที่คนรู้สึกว่า “ต้องเก็บไว้” จะดันให้เพจโตเร็วกว่าโพสต์ขายหรือโพสต์สั้น ๆ ที่ไม่มีประโยชน์
ใช้ Facebook Reels เป็น “ช่องดึงคนเข้าเพจ” แล้วใช้เพจเป็น “ช่องปิดการขาย”
Reels คือเครื่องมือที่ทำให้เพจโตเร็วที่สุด เพราะอัลกอริทึมผลักเข้าคนที่ไม่ได้ติดตามด้วย แต่ Reels มักปิดการขายได้ไม่ดี เพราะมีเวลาน้อย สิ่งที่ควรทำคือใช้ Reels ดึงผู้ชมเข้ามา แล้วให้เขาไปเจอความรู้หรือรีวิวเต็มในเพจ ซึ่งช่วยเปลี่ยนผู้ติดตามเป็นลูกค้าในระยะยาว
ใช้ Story เพื่อให้แบรนด์อยู่ในสายตาคนบ่อยขึ้น
แม้โพสต์หลักจะมีคนเห็นน้อย แต่ Story ยังคงเข้าถึงลูกค้าได้ดี การอัปเดต Story เช่น เบื้องหลังร้าน ความเคลื่อนไหวประจำวัน รีวิวหรือบรรยากาศการทำงาน ทำให้แบรนด์ดูใกล้ชิดและเป็นมนุษย์มากขึ้น ลูกค้าเห็นบ่อยขึ้น แม้ไม่ใช่โฆษณา ก็ช่วยรักษาความสัมพันธ์ได้อย่างดี
ใช้ SEO บน Facebook ให้เป็นประโยชน์
หลายคนไม่รู้ว่า Facebook ก็มีระบบค้นหาคล้าย Google การใส่คำค้นหาในชื่อเพจ คำอธิบาย และแคปชั่นอย่างถูกต้อง จะทำให้ลูกค้าที่หาสินค้าเจอเพจของเราได้ง่ายขึ้น และเป็นทราฟฟิกแบบออแกนิกที่มีคุณภาพมากกว่าการยิงแอดอีกด้วย
การใช้ Facebook ให้คุ้ม ไม่ใช่การโพสต์เยอะ แต่คือการโพสต์ที่มีคุณค่าและรู้จักใช้เครื่องมือที่ถูกต้อง ธุรกิจที่เข้าใจอัลกอริทึมใหม่ จะใช้ Facebook ได้คุ้มกว่าการยิงแอดจำนวนมาก คอนเทนต์คุณภาพ การสื่อสารจริงใจ ความสม่ำเสมอ และการใช้เครื่องมือ Reels + Story + Group ทำให้เพจโตได้แม้โพสต์ปกติคนเห็นน้อย

